แข็งจนอยู่นิ่งๆ กันไม่ได้แล้วนะ ..ค่าเงินบาท

            ปัญหาปวดหัวที่ผู้มากบารมีในรัฐบาล รวมถึงผู้นำหน่วยงานสำคัญด้านเศรษฐกิจของประเทศ ต้องรีบเร่งย้ายก้นมานั่งคุยกันว่าจะเอาไงดีกับ ปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นแบบพรวดพลาดในเวลานี้  จะเป็นเพราะการผ่อนคลายจากนโยบายการเงินโลกหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ที่แน่ๆ สถานการณ์เงินบาทแข็งโป๊กในระดับ 31 บาท/ดอลลาร์แบบนี้ ไม่ผ่อนคลายสำหรับประเทศไทย แน่นอน   

               นั่นเพราะเศรษฐกิจภาพใหญ่ของไทยพึ่งพิงอยู่กับธุรกิจภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวเป็นหลัก ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุถึงผลกระทบว่าการแข็งค่าของเงินบาทจะลดทอนแต้มต่อของความสามารถในการแข่งขันทางด้านราคา และทำให้รายรับของภาคการส่งออกที่แปลงกลับมาเป็นเงินบาทลดลง แถมตอนนี้ประเทศไทยยังต้องรับมือกับปัจจัยท้าทายอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แนวโน้มการชะลอตัวของปริมาณการค้าและเศรษฐกิจโลก 

                   ตอนนี้ค่าเงินบาทไทยแข็งค่าที่สุดในรอบกว่า 5 ปี ไปเป็นที่เรียบร้อย โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันแข็งค่าขึ้นประมาณ 4.7% ขณะที่เงินรูเปียห์ของอินโดนีเซียแข็งค่าขึ้น 3.7% และเงินหยวนแข็งค่า 2.2% เรียกง่ายๆ ได้ว่าตอนนี้พี่ไทยแข็งสุดในภูมิภาค

              ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว ผู้ประกอบการส่งออกแย่ แต่ผู้นำเข้าได้รับอานิสงส์  แน่นอนว่าผู้ประกอบการเอง มีประสบการณ์ในการปรับตัวป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนอยู่แล้ว แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ควรมีมาตรการออกมาเพื่อพร้อมรับมือ เพราะสัญญาณผิดปกติของกระแสเงินทุนต่างชาติไม่รู้จะเกิดในตอนไหน  ทั้งนี้ก็เพื่อความสบายใจของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย  

                   จะให้ดี..พรรคการเมืองทั้งหลายที่กำลังหาเสียงเลือกตั้งในเวลานี้ ถ้าหยิบยกปัญหานี้มาเป็นประเด็นหาเสียง ว่าด้วยแนวทางการแก้ไขปัญหา หรือเสนอชี้แนะแนวทางในมุมที่ประเทศจะได้ประโยชน์จากการแข็งค่าของเงินบาท ..ก็น่าจะดีไม่น้อย